วิธีป้องกันการโจรกรรมรถและจักรยานยนต์ แนะนำโดย ศปจร.น.

โดย: CBN [IP: 110.169.36.xxx]
เมื่อ: 2014-01-27 14:14:13
หัวหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.) ได้จัดพิมพ์แผ่นพับคู่มือแนะนำเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ให้ระวังทรัพย์สินก่อนถูกคนร้ายโจรกรรม โดยควรปฏิบัติเป็นประจำดังนี้

1 ล็อคมันไว้ คือ ให้ล็อคกุญแจรถทุกครั้งไม่ว่าจะจอดรถอยู่ในหรือนอกบ้าน นานหรือครู่เดียวก็ตาม ซึ่งจะช่วยลดโอกาสสูญหายได้ 3.55 เท่า และควรล็อคอย่างน้อย 2 ระบบ ต่างรูปแบบและต่างยี่ห้อจะช่วยป้องกันรถหายได้มาก ถ้าซื้อรถใหม่ ควรเปลี่ยนระบบกันขโมยใหม่เสมอ ระบบกันขโมยที่ติดตั้งมาก่อนซื้อรถอาจถูกสำเนากุญแจไว้แล้ว

2.ปกปิดมันไว้ คือ ก่อนให้ใครเข้ามาใกล้บ้าน หรือในบ้าน ต้องระวังและปกปิดทรัพย์สินมีค่าเสมอให้พ้นสายตาเสมอ ระวังพวกที่ชอบสอดรู้สอดเห็น เช่น พนักงานติดตั้งเครื่องไฟฟ้า หรือคนงานสำนักงานที่ชอบถามเรื่องซอกแซกในบ้าน มักจะเป็นสายให้โจรหรือเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ อย่างทำตัวอวดร่ำรวย เช่นสวมใส่เครื่องประดับมีค่า หรือจอดรถไว้ให้คนที่ผ่านหน้าบ้านเห็นได้โดยง่าย ควรมีผ้าคลุมแบบราคาไม่แพง มาปิดคลุมรถเอาไว้ถ้าทำได้ โดยเลือกแบบราคาไม่แพง เพราะยิ่งแพงจะยิ่งเสี่ยง ไม่ควรวางสิ่งของมีค่าไว้ในรถยนต์ หากจำเป็นให้ปิดบังซ่อนให้มิดชิด เก็บไว้กระโปรงท้ายดีกว่าวางล่อตาที่เบาะหลัง

3.ติดตั้งเครื่องกันขโมยแบบส่งเสียงดัง ควรเป็นเครื่องป้องกันขโมยแบบเสียงดังแปลกๆ อย่างเหมือนเสียงแตรค้าง เป็นไปได้ควรติดตั้งระบบเตือนภัยขโมยผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ GPS เพื่อระบุพิกัด ช่วยให้ตำรวจสามารถติดตามได้ทันทีเมื่อรถถูกโจรกรรม ติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด หรือระบบความปลอดภัย ทั้งในตัวบ้าน โรงรถ และนอกบ้าน

4.สำหรับรถจักรยายนต์ ให้ทำห่วงยึดติดกับพื้น แล้วล่ามโซ่หนักๆ ยึดติดรถไว้ พร้อมล็อคกุญแจหลายๆ ระบบด้วยจะยิ่งป้องกันได้ดีมากขึ้น

5.ทำให้รถใช้การไม่ได้ชั่วคราว เช่นถอดฟิวส์รถออก ติดตั้งระบบตัดไฟ ซึ่งโจรและขโมยส่วนใหญ่มักจะชอบขโมยอะไรที่ง่ายๆ มากกว่ายากๆ และต้องใช้เวลาในการทำงานเร็วๆ มากกว่าใช้เวลาทำงานนานๆ

6.เลือกที่จอดรถให้รอบคอบ อย่าจอดในจุดลับตาคน เพราะจะช่วยให้โจรขโมยทำงานได้ง่ายขึ้น เลือกจอดที่ๆมีคนอยู่ประจำ จอดในจุดที่มีแสงสว่างพอ ถ้ามีรถคันอื่นขับตาม ควรพิจารณาเปลี่ยนแผนการเดินทางและรีบไปยังสถานที่ปลอดภัย ถ้าพบว่าฝาเติมน้ำมัน ชนิดที่ใช้กุญแจไข หายไปให้คิดไว้ก่อนเสมอว่ากุญแจถูกปั๊มไปแล้ว

7.ระมัดระวังพวกที่ชอบลองรถ เมื่อซื้อหรือขายรถมาใช้ ไม่ควรให้ใครมาขอลองขับรถเรา ถ้านัดหมายขอดูรถ เมื่อซื้อขาย ห้ามนัดให้ไปในที่เปลี่ยว ควรล้างรถด้วยตัวเอง เพราะพนักงานล้างรถ สามารถนำรถไปลองขับ เป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรอย่างยิ่ง มีโอกาสที่รถของท่านจะถูกก๊อปปี้กุญแจและทำสำเนาสัญญาณกันขโมย ก่อนจะย้อนกลับมาขโมยรถในภายหลังได้ ถ้าต้องใช้บริการล้างรถ ควรให้ไปเฉพาะกุญแจรถดอกเดียว อย่าให้กุญแจล็อคระบบอื่นๆไปด้วย เมื่อนำรถไปซ่อม ควรเฝ้าดูและรอรับรถกลับด้วยตัวเอง หากต้องฝากไว้ให้เลือกอู่ที่รู้จักและไว้ใจได้

8.ทำร่องรอยไว้ ขโมยอาจนำรถไปขายทั้งคัน หรือถอดขายเป็นชิ้นๆ ควรจดหมายเลขเครื่องหรือถ่ายรูปเครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่างๆ เอาไว้ ติดชื่อหรือเครื่องหมายซ่อนไว้ในที่พิเศษ ในการช่วยให้ตำรวจติดตามรถได้ดีขึ้น

9.ลดความเสี่ยงด้วยการเลือกใช้รถยี่ห้อและรุ่นที่ดีอันดับสอง ไม่ใช้รุ่นยอดนิยม ถ้าเป็นไปได้ควรมีเพื่อนบ้านช่วยกันเป็นหูเป็นตา ผลัดกับเฝ้าบ้าน หรือรวมกลุ่มกันจ้าง รปภ.ไว้ช่วยอีกแรงจะช่วยลดความเสี่ยงได้มากขึ้น

10.การซื้อรถมาเมื่อดาวน์รถมาแล้ว ไม่ควรนำรถไปให้ผู้อื่นเช่า หรือขายดาวน์โดยทำสัญญาโอนลอย ขายดาวน์ที่ถูกต้องต้องพากันไปเปลี่ยนสัญญาซื้อขายที่ไฟแนนท์เท่านั้น

11.เมื่อรถหายทำอย่างไร ขอให้แจ้งผ่านทางสายด่วน 1599 หรือ เว็บไซด์ www.lostcar.go.th ซึ่งเป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลรถหาย ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ โทร.02-354-5162 ศูนย์ ปจร.น. 71/1 ถนนศรีอยุธยา ทุ่งพญาไท ราชเทวี กทม. ซึ่งจะช่วยติดตามรถที่ถูกโจรกรรม และสามารถตรวจสอบรถว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาหรือไม่



ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์


ชื่อผู้ตอบ: